Vince Zampella อดีตผู้ก่อตั้ง Infinity Ward และ CEO ของ Respawn Entertainment ได้ถูกแต่งตั้งรับตำแหน่งประธานดูแลแฟรนไชน์เกมส์ Battlefield (2 ธ.ค. 2564) ภายหลังจากที่เปิดตัวไปได้ไม่ดีเท่าไหร่สำหรับ Battlefield 2042, Electronic Arts (EA) ก็ได้ประกาศถึงการปรับโครงสร้างการทำงาน และแผนงานในอนาคตของแฟรนไชน์เกมส์นี้ รวมถึงการออกจากตำแหน่งของ Oskar Gabrielson ผู้จัดการทั่วไปของ DICE สตูดิโอที่รับผิดชอบแฟรนไชน์นี้
โดยเริ่มที่โครงสร้างการทำงานใหม่ที่แฟรนไชน์ Battlefield
จะได้รับประธานผู้ดูแลแฟรนไชน์เกมส์นี้ บุคคลที่ว่านั้นก็คือ Vince Zampella อดีตผู้ก่อตั้ง Infinity Ward และ CEO ของ Respawn Entertainment ที่ซึ่งทำการดูแลควบคุม Apex Legends และโครงการอื่น ๆ ของ Respawn อยู่
Laura Miele ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ EA ได้กล่าวกับ GameSpot ถึงการแต่งตั้ง Zampella ว่า “เขาได้สร้างสื่อบันเทิงที่กำหนดวัฒนธรรมที่ซึ่งไปไกลเกินกว่าความเป็นเกมส์”
“พวกเราได้นำเอาบุคคลที่มีความสามารถ และมีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในอุตสาหกรรมไปยังแฟรนไชน์ที่พร้อมจะโลกแล่นบนยุคสมัยใหม่ของการเล่นเกมส์ มันถือว่าเป็นจุดหักเหที่สำคัญในวงการนี้ ด้วยความสามารถของเขาในบัญชาการสตูดิโอต่าง ๆ และการนำเอานักพัฒนาต่าง ๆ มารวมกันเพื่อสร้างประสบการณ์ระดับโลกนั้นถือได้ว่าไม่อะไรมาเทียบเท่าได้ ฉันเชื่อในโครงสร้าง, กระบวนการ และวิสัยทัศน์ที่เขาจะนำเข้ามาที่ซึ่งจะเปิดทางให้ Battlefield นั้น สามารถก้าวหน้าไปในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีใครรู้จักเกมส์ประเภทยิงปืน และบริการ live services ได้ดีเท่า Vince อีกแล้ว”
นอกจากนี้แล้วนั้น แฟรนไชน์จักรวาล Battlefield ยังจะได้รับ Marcus Lehto อดีตนักออกแบบเกมส์ Halo ที่ซึ่งได้เปิดสตูดิโอใหม่กับทาง EA เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ได้มาร่วมงานด้วย โดยเขาจะทำการ “สร้างทีมงานพัฒนาใหม่ในเมือง Seattle ที่จะเน้นย้ำไปยังการใส่เรื่องเล่าลงไปในแฟรนไชน์นี้”
รวมไปถึง Ripple Effect สตูดิโอที่รับผิดชอบในการพัฒนาโหมดการเล่น Portal ของ BF2042 ก็กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงานเพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นใหม่ลงไปในตัวเกมส์อีกด้วย
GameSpot ได้ทำการรายงานเพิ่มเติมว่า “เกมส์และประสบการณ์อื่น ๆ ในจักรวาล Battlefield กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงาน โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นส่วนเสริม อย่างมากที่สุดของจักรวาลเกมส์ Battlefield ที่ซึ่ง EA นั้นพยายามที่จะสร้างขึ้นมา” ทั้งนี้แล้วนั้น ยังไม่มีข้อมูลออกมาแต่อย่างใด
ในท้ายที่สุดนี้ Oskar Gabrielson, ผู้จัดการทั่วไปของ DICE สตูดิโอที่รับผิดชอบแฟรนไชน์ Battlefield ได้ออกจากบริษัท ซึ่งเขาได้มีส่วนรวมกับแฟรนไชน์นี้ตั้งแต่ปี 2011 ในตัวเกมส์ภาค 3 ก่อนที่มีบทบาทใหญ่ในตัวเกมส์ภาคหลัง ๆ จนมาถึงปัจจุบัน เป็นระยะ 10 กว่าปีด้วยกัน
จากการเปลี่ยนแปลง/ดำเนินการเหล่านี้นั้น ถือว่าได้ว่า EA เริ่มจะลงทุนกับ Battlefield มากขึ้น เพื่อที่จะให้แฟรนไชน์นี้สามารถต่อสู้กับคู่แข่งรายใหญ่ที่เคียงข้างกันมาอย่าง Call of Duty ที่เริ่มมีการสร้างจักรวาลของตัวเองขึ้นมาล้อมรอบ COD: Warzone ด้วยการเชื่อมโยงเกมส์ต่าง ๆ นับตั้งแต่ Modern Warfare (2019) เป็นต้นไป กับเกมส์ Free-to-Play Battle Royale เกมส์นี้
ก็ต้องมารอดูกันไปกับอนาคตของจักรวาลเกมส์ Battlefield นั้นจะเป็นอย่างไร และจะมีอะไรนำเสนอ รวมไปถึงจะทำการเชื่อมต่อกันอย่างไรบ้าง
Valve เปิดเผยภาพ Packaging ของ Steam Deck
หลังจากที่ได้ตอบคำถามของตัวเครื่องเล่น Steam Deck ไปแล้วนั้น Valve ก็ได้ทำการเปิดเผยถึงภาพ Packaging สุดท้ายก่อนที่จะทยอยจัดส่งตามเวลาที่วางไว้ (3 ธ.ค. 2564) Valve ได้ทำการรายงานถึงความคืบหน้าล่าสุดของตัวเครื่องเล่นแบบพกพาของบริษัท Steam Deck โดยในที่นี่ก็คือภาพของหีบห่อสินค้า หรือ Packaging สุดท้ายของตัวเครื่องเล่น รวมไปถึงตัวเครื่องสำหรับผู้พัฒนา (Dev Kit) ที่มีการพัฒนาขึ้นมาเล็กน้อยจากตัวเครื่อง Preview ที่ปล่อยไปก่อนหน้านี้
โดย Valve นั้นได้เผยว่าล่าสุดนี้บริษัทได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของลักษณะ/ดีไซน์ (DV (Design Validation)) ภายในการผลิตตัวเครื่องของ Steam Deck ที่ซึ่งจะถูกใช้งานสำหรับการทดสอบเพิ่มเติมอีกขั้นหนึ่ง และเป็นตัวเครื่องที่สำหรับผู้พัฒนา (developer kits/dev kit)
ตัวเครื่องในรุ่น DV นั้นจะถือว่าเป็นตัวเครื่องต้นฉบับรุ่นสุดท้ายก่อนที่จะได้รับการผลิตขนานใหญ่อย่างเป็นทางการ โดยตัวเครื่องรุ่นนี้จะได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น EV2 ซึ่งภายหลังจากที่เครื่องรุ่นนี้ผ่านการทดสอบเพิ่มเติมแล้วนั้น ก็จะมีการพัฒนา และเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมจนมาเป็นตัวเครื่องที่วางจำหน่ายในท้ายที่สุด
หนึ่งความแตกต่างระหว่างรุ่น DV กับ EV2 ที่ทาง Valve เปิดเผยได้นั้นก็คือ Packaging โดยตัวเครื่องรุ่น DV นั้นจะถูกใช้งานเพื่อทดสอบการ Packaging หรือการจัดแพ็ค/หีบห่อสินค้าของเราด้วย ซึ่งก็ได้มีการนำเสนอภาพให้เราได้เห็นกัน ก่อนที่จะได้สัมผัสมันโดยตรงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
จากภาพแล้วนั้น Packaging ของมันถือว่ามีความเรียบง่ายเป็นอย่างมาก โดยภายนอกนั้นไม่มีการตกแต่งอะไร นอกไปจากสัญลักาณ์ที่บ่งบอกข้อระวังในการขนส่งอุปกรณ์ ซึ่งภายในกล่องนั้นก็เป็นอะไรที่ถือว่าเป็นสไตล์ปกติของ Valve โดยมีการตกแต่งด้วยคำบอกสถานที่ต่าง ๆ ที่สามารถเอาอุปกรณ์ไปเล่นได้ ในภาษาต่าง ๆ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป