รีบเช็กตัวเองด่วน! อาการโรคฝีดาษลิง เป็นอย่างไร สมารถติดต่อได้อย่างไรบ้าง อย่างประมาท กับโรคหายาก แต่อันตรายถึงชีวิต หลัง พบฝีดาษลิงในไทยแล้ว สืบเนื่องจากกรณี กรมควบคุมโรครายงานยืนยันว่า ประเทศไทย พบผู้ป่วยติดเชื้อโรค “ฝีดาษลิง” รายแรกแล้ว ในจังหวัดภูเก็ต เป็นชายชาวไนจีเรีย ยังไม่ใช่การติดเชื้อฝีดาษลิงหรือ “ฝีดาษวานร” ในประเทศ แต่ก็ประมาทไม่ได้
วันนี้ The Thaiger จะพาทุกคนไปเช็กตัวเองว่า “อาการของโรคฝีดาษลิง” เป็นยังไงบ้าง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันจากโรคหายากนี้กัน
เตือนภัย ฝีดาษลิง Monkeypox คืออะไร ? ไข้ทรพิษลิง โอกาสติดน้อย แต่ควรระวังไว้
พบ “ฝีดาษลิง” รายแรกในไทย ที่ “ภูเก็ต” เป็นชายไนจีเรีย
‘ราชกิจจา’ ประกาศ ฝีดาษลิง เป็น โรคเฝ้าระวัง มีผลแล้ววันนี้
สำรวจตัวเอง อาการโรคฝีดาษลิง มีเป็นยังไง ติดต่อได้จากอะไร ตุ่มหนอง มีไข้ ลามจากจุดไหน
ฝีดาษลิง มีอาการอย่างไรบ้าง ?
โดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยโรงฝีดาษลิง จะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อประมาณ 12 วัน อาการเบื้องต้นมีหลายอย่าง อาทิ มีไข้, หนาวสั่น, ปวดหัว, เจ็บคอ, บวม, ปวดหลัง, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ,ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลีย. บางรายอาจพ่วงอาการง่วงซึม แต่เมื่อไข้ทุเลาลง อาจเกิดผื่นขึ้น มักจะเริ่มจากบนใบหน้าก่อน จากนั้นจะลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย.
ผื่นส่วนใหญ่ จะพบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า อาจมีอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง และมีการเปลี่ยนแปลงหลายขั้น ก่อนที่ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ซึ่งในระยะสุดท้ายตุ่มหนอง จะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา เหตุนี้เองโรคฝีดาษลิงอาจทำให้เกิดแผลเป็นตามมา โดยปกติแล้วอาการป่วย จะอยู่ในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ และสามารถหายเองได้.
นิยามผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ฝีดาษลิง (Monkeypox) สำหรับการคัดกรองหรือนิยามผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ในด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีเกณฑ์ดังนี้
ทั้งนี้ จะแจกบัตรเตือนสุขภาพ (Health beware card) เป็น QR code ให้ผู้ที่มีอาการดังกล่าวสแกนเข้าระบบเพื่อรายงานอาการป่วย หากมีอาการ เช่น ไข้ มีตุ่มให้รายงานเข้าระบบและรีบไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด รวมถึงแจ้งประวัติการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที.
โรคฝีดาษลิง พบในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะหลายชนิด เช่น หนู กระรอก กระต่าย โดยคนสามารถติดโรคนี้จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด หรือการกินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ. นอกจากนี้เชื้อโรคนี้ยังแพร่กระจายด้วยการสัมผัสกับวัตถุที่ปนเปื้อนไวรัสชนิดนี้ อย่าง ผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้า เมื่อติดเชื้อแล้ว อาการโรคฝีดาษลิงก็จะออก.
‘โจ ไบเดน’ ติดโควิด เผยอาการป่วยเล็กน้อย
โจ ไบเดน ติดโควิด เผยอาการป่วยเล็กน้อย ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างกักตัว ขณะนี้ทานยาต้านไวรัสแล้ว ขณะที่ภรรยา จิล ไบเดน มีผลตรวจเป็นลบ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ติดโควิด-19 เบื้องต้นมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และระหว่างนี้จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการกักตัวต่อไป เบื้องต้นนายไบเดนได้ทานยาต้านไวรัสแล้ว
ก่อนหน้านี้ นายไบเดน มีอาการเหนื่อยล้า คัดจมูก และไอแห้ง ก่อนที่จะระบุว่าเขานอนไม่ค่อยหลับ และตรวจพบว่าป่วยเป็นโควิดในวันพฤหัสบดี
ขณะที่นาง จิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งมีผลตรวจเป็นลบ โดยเธอบอกว่าสามีของเธอแข็งแรงดี ซึ่งเธอจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามตารางงานเดิมและจะสวมหน้ากากตามคำสั่งของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคต่อไป สำหรับนาย โจ ไบเดน นั้นได้รับวัคซีนโควิดครบสองโดสแล้ว และยังได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นอีกสองโดส
ถือว่าเป็นได้ทั้งรสนิยม และความท้าทายก็ว่าได้ของ คู่รักเอาท์ดอร์ ที่ทดลองร่วมรักกันบ กระดานโต้คลื่น ที่ซึ่งก็มีผู้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่ว่าไว้ได้ (21 ก.ค. 2565) นับว่าเป็นอะไรที่เราเริ่มจะรับรู้กันมาขึ้นกับการร่วมรักกันในพื้นที่กลางแจ้ง และ คู่รักเอาท์ดอร์ บางคู่ก็ได้พยายามที่จะท้าทายความสามารถในการร่วมเพศของตนเอง โดยในครั้งนี้นั้นได้เกิดขึ้น ณ กลางทะเล และบน กระดานโต้คลื่น ที่ต้องต่อสู้ทั้งการทรงตัว รวมถึงคลื่นทะเลที่ซัดมาด้วย
โดยเรื่องราวดังกล่าวนั้น ก็มาจากการรายงานของเว็บไซต์ Daily Star ที่นำเสนอภาพวิดีโอของชายหาดแห่งหนึ่ง ที่คนบริเวณชายฝั่งถ่ายภาพไว้ ซึ่งใจความสำคัญนั้นอยู่ที่เมื่อขยายภาพเข้าไปแล้วนั้น ก็พบกับคู่รัก ชาย-หญิง ที่กำลังเล่นกิจกรรมสวาท ณ กลางทะเล และที่น่าสนใจกว่าก็คือพวกเขานั้นกำลังโจ๊ะกันบนกระดานโต้คลื่นอีกด้วย
ถือว่าเป็นการเพิ่มระดับความยากของการร่วมเพศกลางแจ้งก็ว่าได้ โดยฝ่ายหญิงนั้นได้นอนตัวเองบนกระดาน ในขณะที่ฝ่ายชายก็ได้คุกเข่าดำเนินการไป ซึ่งทั้ง 2 นั้น ก็ต้องประคองตัวเองสู้กับตัวกระดาน และคลื่นทะเลที่ซัดเข้าชายฝั่งไปพร้อม ๆ กัน
หลังจากที่ภาพดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ออกไปนั้น ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่นั้นก็กล่าวยกย่องถึงความพยายามในการพิชิตความท้าทายดังกล่าวของคู่รักคู่นี้ รวมไปถึงตัวเจ้าของภาพที่สามารถจับภาพนี้ได้อย่างชัดเจน
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป