ทนายตั้ม โพสต์ถามคนใช้ ยาเสียสาว มีจุดประสงค์อะไร? ชี้ถ้ากินแก้เครียดต้องมีใบรับรองจากแพทย์ ด้าน ปอ รับคนที่กินยาเสียสาวคือตนเอง ทนายตั้ม หรือ นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าพบ ยาเสียสาว หรือ Alprazolam ภายในกระแสเลือด บนบุคคลที่อยู่บนเรือลำเดียวกันกับ แตงโม นิดา นักแสดงสาวที่พลัดตกน้ำเสียชีวิตเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่่ผ่านมา
โดย ทนายตั้ม ระบุว่า
“วันนี้มีประเด็นร้อนที่น่าสนใจ หลังตำรวจเปิดเผยว่าตรวจพบยาเสียสาวในพยานบุคคล 1 ในห้าที่อยู่บนเรือคดีแตงโม ก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนเปิดแชทลับลงในสื่อหลายหัว ว่ามีคนส่งข้อมูลหลักฐานมาว่า คนเกี่ยวข้องกับคดีน้องแตงโมบางคน เคยก่อเหตุมอมสาวแบบนี้มาก่อน ผมไม่อาจตอบได้ ว่าบุคคลนั้นเป็นใคร และเป็นคนเดียวกับที่อยู่บนเรือไหม
แต่ในเมื่อคุณมียาแบบนี้อยู่ในกระแสเลือด ในวันที่เพื่อนของคุณเสียชีวิตแบบเป็นปริศนา คุณควรออกมาชี้แจงสังคม ว่าคุณใช้ยาตัวนี้ด้วยจุดประสงค์อะไร เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับ? เพื่อรักษาอาการวิตกกังวล? ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้คุณต้องมีใบสั่งจากแพทย์ เพราะเป็นยาควบคุม ถ้าไม่มีก็อดกังวลใจไม่ได้ ว่าใช้เพื่อเป็นยาเสพติดหรือเพื่อหวังผลทำอะไรคนบนเรือ”
อย่างไรก็ตามในภายหลัง ‘หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย‘ ก็ได้มีการออกมาเปิดเผยผ่านรายการ ‘เที่ยงวันทันเหตุการณ์‘ ทาง ‘ช่อง 3‘ คาดเป็น ‘ปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์‘ ที่ใช้ ยาเสียสาว โดยระบุว่า “ผมเชื่อว่ายาที่ไปพบ น่าจะพบในตัวของคุณปอ เพราะว่า หลังจากที่มีปัญหา ผมเองได้มีการติดต่อสอบถาม ซึ่งคุณปอบอกว่า เป็นตัวเขาเอง ที่ไปเจอผลตรวจที่เป็นยาเสียสาว คือตัวเขาเอง กินแก้เครียด เขาบอกว่าเขาเครียด ก็เลยให้คนไปเอายามา เลยถามว่าเอายามาจากที่ไหน เขาบอกว่าเอายามาจากคลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งอันนี้ต้องเป็นให้เขาออกมาตอบเอง ว่าข้อมูลมันคือยังไง
ยาที่เขาใช้คือ อัลปราโซแลม เขาบอกใช้ 0.5 มิลลิกรัม แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่รู้ เขาแจ้งมาแบบนี้ ว่า 1 ใน 5 ไม่ต้องหาว่าเป็นใคร ตัวเขาเอง เขาใช้แก้เครียด อ้างมาแบบนั้น ถามว่ากินก่อนขึ้นเรือ หรือหลังเหตุการณ์บนเรือ เขาบอกว่าหลังเหตุการณ์บนเรือ เขานอนไม่ได้ เลยให้ลูกน้องไปเอายานี้มากิน แล้วหลังจากนั้นไปตรวจร่างกายก็เลยเจอ”
ตำรวจเผยประเด็น ‘ยาเสียสาว’ ไม่ใช่เรื่องใหม่ ชี้ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นเพราะพบในผู้ชาย
ตำรวจภูธรภาค 1 โต้ปม ยาเสียสาว Alprazolam ไม่ใช่เรื่องใหม่ ชี้ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นเพราะพบในผู้ชาย ยืนยันไม่กระทบสำนวนคดี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ยาเสียสาว Alprazolam บนเลือดของหนึ่งในคนบนเรือลำเดียวกับ แตงโม นิดา ที่ตกน้ำเสียชีวิต
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ระบุว่า ไม่ใช่ประเด็นใหม่ ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น แต่สาเหตุที่ไม่ได้พูดถึงในวันแถลงสรุปสำนวนคดีในประเด็นดังกล่าว เพราะรายละเอียดทั้งหมดเป็นเรื่องในสำนวนคดี ประกอบกับการตรวจพบยาเสียสาวก็พบในผู้ชาย และไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร รวมทั้งยังไม่แน่ใจว่าใช้เพื่ออะไร เนื่องจากผู้ชายที่รับประทานยาเสียสาวมีหลายประเด็นทั้งการกินยาให้นอนหลับ หรือเป็นการคลายเครียด
สำหรับกระแสสังคมและข้อมูลใหม่ที่ถูกนำมาเผยแพร่นั้น ผบช.ภ.1 ยังคงยืนยันว่า ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องใหม่ และยังต้องสู้กันไป เชื่อว่าของจริงของปลอมเดี๋ยวก็รู้ ซึ่งทั้งหมดไม่กระทบกับสำนวนคดี
ขณะเดียวกัน หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดังได้เปิดเผยกลางรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า ตนได้ติดต่อไปยังปอ โดยปอยอมรับว่าเป็นตัวเองที่ไปตรวจและเจอผลยาตัวนี้ สาเหตุที่กินเพราะแก้เครียด
หนุ่ม กรรชัย กล่าวอีกว่า ปอบอกว่าเครียด จึงให้คนไปเอายามา ซึ่งไปนำยาจากคลินิกแห่งหนึ่ง โดยลูกน้องไปเอามาให้ เป็นการกินหลังเหตุการณ์บนเรือเกิดขึ้น ก่อนไปตรวจสอบเลือดในร่างกายและเจอสารตัวนี้ โดยเป็นประเด็นที่ปอต้องมาตอบเอง ซึ่งเป็นยา Alprazolam ใช้ไป 0.5 มิลลิกรัม อ้างกินยาเพื่อแก้เครียด
ข่าวพระบิดา – ศาลอนุญาตให้ ประกันตัวพระบิดา หัวหน้าลัทธิดื่มกินปัสสาวะ ด้วยวงเงิน 5 หมื่นบาท เบื้องต้นตำรวจแจ้งสี่ข้อหา พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร ได้เปิดเผยว่า ศาลให้ ประกันตัวพระบิดา หรือ นายทวี หนันลา เจ้าลัทธิที่อ้างเป็นบิดาทุกศาสนา ให้ลูกศิษย์ดื่มกินปัสสาวะ อุจจาระ และขี้ใคล รวมถึงนอนกับศพ ด้วยวงเงิน 5 หมื่นบาท
หลังจากที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัว พระบิดา และแจ้งข้อหา 4 ข้อหา ได้แก่ “บุกรุกที่สาธารณประโยชน์, รักษาโรค ผิด พ.ร.บ.เวชกรรม ที่ไม่เป็นไปตามหลักสาธารณสุข, เคลื่อนย้ายศพจัดการศพ, ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารสถาณการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548”
นอกจากนี้ พ.ต.อ.วัฒนชัย ยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และชาวบ้านในอำเภอคอนสาร ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือต่อต้านลัทธิความเชื่อประหลาดของ นายทวี หรือ “พระบิดา” ต่อ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ
โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าฯ ชัยภูมิ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ หลังชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่ศรัทธาพร้อมทั้งถือป้ายขับไล่ลัทธิดังกล่าวออกจากพื้นที่ และขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิดังกล่าวต่อไปอีกด้วย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป